วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

ประวัตินักบอล



     กว่าจะมาเป็นนักเตะยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 

        “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เกิดเมื่อวันที่5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 เป็นชาวจังหวัดนครปฐม โดยมีคุณพ่อ ก้องภพ สรงกระสินธ์ สอนให้เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบและเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในขณะอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และย้ายมาศึกษาต่อที่ โรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จนจบชั้นประถมศึกษา จากนั้นเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนสามพรานวิทยา และหลังจบชั้นม.ต้นย้ายมาศึกษาต่อที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนิน และเล่นฟุตบอลให้สถาบันโดยช่วยให้สถาบัน คว้าถ้วยพระ-ราชทานฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา 18ปี ประเภท ก ในเดือนมกราคมปี 2554เมื่อจบระดับมัธยมศึกษาก็มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คณะรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน

         สำหรับเกียรติประวัติ การเล่นฟุตบอลระดับสโมสร เริ่มต้นขึ้นฤดูกาล 2554 ในสมัยที่ชนาธิปยังเล่นฟุตบอลระดับนักเรียน เขาเคยถูกสโมสรทีโอที เอสซี ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาด้วยเพราะรูปร่างเล็กเกินไป ไม่เหมาะจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนที่จะเป็นสโมสร บีอีซีเทโรศาสน ที่นำตัวเขามาร่วมทีมชุดเยาวชนของสโมสรโดยได้ค่าแรงเดือนล่ะ10000 บาทจากนั้น “เมสซี่เจ” ก็เล่นอยู่ในทีมชุดเยาวชนอายุ 19 ปีของทีม “มังกรไฟ” ภายใต้การคุมทีมของ แอนดรูว์ ออร์ด โค้ชทีมเยาวชนชาวออสเตรเลีย และสามารถพาทีมเยาวชนของสโมสรคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้สำเร็จโดยในรายการนี้ชนาธิปยังได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกมอีกด้วย

         จากผลงานที่ดีในทีมเยาวชนของ บีอีซี เท-โรศาสน ทำให้ถูก สมชาย ชวยบุญชุม โค้ชทีมชาติชุดเยาวชนในขณะนั้น เรียกติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน 19ปีแข่งขันรายการ ชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย 2012 ในรอบคัดเลือก โดยทีมชาติไทยได้แชมป์กลุ่ม ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปีถัดไปโดยในรอบคัดเลือกนี้ชนาธิปได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และยิงประตูให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุ 19 ปีได้ 1 ลูก

         ต่อมาฤดูกาล 2555 หลังจาก แอนดรูว์ออร์ด ได้แต่งตั้งให้เลื่อนขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ของ“มังกรไฟ” ก็ได้ดึงชนาธิปขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ด้วยโดยได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 18 ฤดูกาลแรกกับการเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว ชนาธิปได้ลงสนามในฤดูกาลนี้รวม 33 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 28 นัด, โตโยต้า ลีกคัพ 3 นัด, เอฟเอ คัพ 2 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 4 ประตูถัดมาฤดูกาล 2556 ในเดือนมกราคมชนาธิป ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ ในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์ คัพ ครั้งที่ 42 และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทำได้เพียงแค่คว้าอันดับ 3 ร่วมกับเกาหลีเหนือขณะที่ภายในสโมสรในฤดูกาลนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงโค้ชเป็น สเตฟาเน่ เด โมล ทำให้ “เมสซี่เจ” มีโอกาสลงสนามน้อยลง จบฤดูกาลหวดไป 28 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 26 นัด, เอฟเอ คัพ 1 นัด, ลีก คัพ 1 นัด)ยิงใน ไทยพรีเมียร์ลีก ได้ 3 ประตูแต่ก็ถูก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เรียกติดทีมชาติไปร่วมทัพกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศพม่าในเดือนธันวาคม

         ฤดูกาลล่าสุด 2557 “เมสซี่เจ” ต้อออกสตาร์ตช่วงต้นฤดูกาล ด้วยการนั่งชมเพื่อนข้างสนาม เนื่องจากได้รับบาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งหัก จากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ แต่หลังจากกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ในเกมแรกของฤดูกาลนี้วันที่ 29มีนาคมที่เปิดบ้านเสมอกับสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด1-1 ในฐานะตัวสำรองก็ค่อยๆ ฟื้นฟอร์มเก่งกลับมาจนก้าวกลับมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม บีอีซี เทโรศาสน และสามารถยิงประตูให้ทีม ทั้งหมดในทุกถ้วย11 ประตู

         สำหรับศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 นั้นทาง “เมสซี่เจ” ก็ได้กลายเป็นแข้ง ที่โชว์ผลงานฟอร์มการเล่นที่เร้าใจ ด้วยลีลากระชากลากเลื้อยที่พลิ้วไหวจนผู้เล่นฝั่งตรงข้ามไล่ตามประกบ หรือแม้จะทั่งไล่เตะกันแทบไม่ทัน อีกทั้งในการแข่งขันครั้งนี้ “เมสซี่เจ” ยังซัดประตูให้กับทีมชาติไทยได้ถึง 2 ประตู จากเกมรอบรองชนะเลิศนัดที่ 2 เม็ดแรกและยังกระชากจ่ายให้เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ซัดอีกเม็ดให้ทีมไทยชนะ 3-0ผ่านเขารอบชิงชนะเลิศ โดยที่เกมนัดชิงฯ “เมสซี่เจ”ชนาธิปยังโชว์ความยอดเยี่ยม ด้วยการยิงประตูที่ 2 ให้กับทีมชาติไทย ดับฝันของแฟนบอล “เสือเหลือง” ทั้งประเทศมาเลเซียอีกด้วย

         “ผมยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ก็ดีใจสุดๆภาคภูมิใจอย่างมากกับรางวัลที่ได้รับมา ต้องขอบคุณพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์โค้ช และผู้ใหญ่ต้นสังกัดและสมา-คมฟุตบอลฯ รวมถึงแฟนบอลชาวไทย และครอบครัวสรงกระสินธ์ทุกคน ที่เคยให้โอกาสและเป็นกำลังใจให้กับผมมาลอด ที่ผ่านมาผมยอมรับว่าเหนื่อยกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เพราะผมรู้ว่าตัวเล็กเสียเปรียบรูปร่าง แต่ผมก็พยายามซ้อมหนักกว่าเพื่อนร่วมทีมเป็นเท่าตัว เพื่อชดเชยจุดที่เสียเปรียบ เพื่อความแข็งแกร่งทดแทน ทุกครั้งผมต้องบอกตัวเองว่า จะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ก่อน และวันนี้ผมก็ทำได้แล้ว ภาคภูมิใจอย่างมากที่มีวันนี้ ผมจะพยายามรักษามันไว้ให้ดีที่สุด” “เมสซี่เจ” กล่าวเปิดใจด้วยความภาคภูมิใจ หลังรับรางวัลแห่งเกียรติยศนักเตะยอมเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014

         แน่นอนว่าบนเส้นทางลูกหนังของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังมีอีกยาวไกล รางวัลนี้จะเป็นเครื่องหมายการันตีความสำเร็จ ของผู้ที่มีความหวังและความพยายาม ซึ่งน่าจะเป็นไอดอลแรงบันดาลใจให้กับนักเตะเยาวชนอีกไม่น้อย ที่รูปร่างเล็กว่า....หากพยายามทุ่มเทคุณก็ทำได้อย่าง.....“เมสซี่เจ” !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น